• สรุปข่าวเศรษฐกิจ (ภาคค่ำ) ประจำวันที่ 9 เมษายน 2564

    9 เมษายน 2564 | Economic News
   

· ดอลลาร์รีบาวน์จากที่อ่อนค่า - กังวล AstraZeneca กดดันปอนด์

ดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย แต่สัปดาห์นี้อยู่ในทิศทางอ่อนค่า โดยตลาดมีการขานรับกับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของยุโรป และข้อมูลผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ที่ออกมาอ่อนแอ ยิ่งตอกย้ำมุมมองเฟดผ่อนคลายทางการเงินต่อไป และหนุนให้นักลงทุนลดการถือครองในดอลลาร์


ดัชนีดอลลาร์สัปดาห์นี้อ่อนค่าลง 0.9% ทำอ่อนค่ามากสุดรอบ 2 สัปดาห์ที่ 92.171 จุด

ในตลาดเอเชีย ยูโรอ่อนค่าลง 0.1% แต่ก็ยังทรงตัวได้เหนือเส้น MA ราย 200 วันบริเวณ 1.1900 ดอลลาร์/ยูโร

เยนแตะเส้นค่าเฉลี่ยราย MA 20 วัน และสามารถทรงตัวได้เหนือ 109.32 เยน/ดอลลาร์ และภาพรวมทั้งสองค่าเงินในสัปดาห์นี้ปรับแข็งค่าได้ 1.3%

ค่าเงินยูโรปรับแข็งค่าขึ้นได้กว่า 2% เมื่อเทียบปอนด์ ขณะที่ค่าเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.7% แตะ 1.3723 ดอลลาร์/ปอนด์


· อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับขึ้นก่อนข้อมูล PPI สหรัฐฯคืนนี้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯปรับตัวขึ้นก่อนการประกาศข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐฯในคืนนี้ 19.30น. ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อกลุ่มค้าปลีก




อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี ของสหรัฐฯ ขยับขึ้นแตะ 1.666%

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี ปรับขึ้นมาบริเวณ 2.343%


· สต็อกวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนาของบริษัท AstraZeneca ในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นมากกว่า 20 ล้านโดส โดยวัคซีนดังกล่าวซึ่งรัฐบาลของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสฟรัฐฯ ได้สต็อกไว้เป็นจำนวนมากนั้น ยังไม่มีแนวโน้มที่จะถูกนำมาใช้ในโครงการฉีดวัคซีนเนื่องจากยังไม่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA)


· สมาชิกบอร์ดบริหารของอีซีบี เตือน การบล็อกกองทุนฟื้นฟูอียู ที่อาจยิ่งทำลายภาพรวมทางเศรษฐกิจยุโรป


· รัฐมนตรีกระรทรวงสาธารณสุขฝรั่งเศส แนะนำฉีดวัคซีน Covid ที่ใช้กระบวน mRNA มาใช้เป็นวัคซีนเข็มสองหลังฉีดวัคซีนจาก AstraZeneca เข็มแรกไปแล้วสำรหับกลุ่มผู้มีอายุต่ำกว่า 55 ปี เพื่อเป็นการผสานการทำงานรูปแบบใหม่กับวัคซีนที่ใช้กระบวนการ RNA


· ยอดการส่งออกของเยอรมนีประจำเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 0.9% หลังจากที่ปรับเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากการค้ากับจีนที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าผลผลิตโดยรวมจะปรับตัวลดลงเนื่องจากการระบาดของไวรัสดังกล่าวในช่วงไตรมาสแรก

ขณะที่ยอดการนำเข้าเพิ่มขึ้น 3.6% หลังจากลดลง 3.5% ในเดือนก่อนหน้า


· ส่งออกเยอรมนีเพิ่มเดือนก.พ. แตะ 0.9% โดยได้รับแรงหนุนจากการค้าจีนรอบใหม่ที่เพิ่มมากขึ้นในยุโรป ด้านยอดนำเข้าเพิ่ม 3.6% หลังจากที่เดือนก่อนหน้าลดลง 3.5%

ขณะที่เดือนม.ค. ปรับทบทวนขึ้นมาที่ 1.6% ในเดือนม.ค. แต่ภาพรวมก็ยังน้อยกว่าที่ผลสำรวจรอยเตอร์สประเมินไว้ว่าข้อมูลเดือนก.พ.จะขยายตัวได้ 1.0% แต่นำเข้าเพิ่มมากที่คาดไว้ที่ 2.4%

ภาพรวมเยอรมนีมียอดเกินดุลการค้าหดตัวลงแตะ 1.91 หมื่นล้านยูโร

ขณะที่การส่งออกไปยังจีนในช่วงเวลา 1 ปี เพิ่มขึ้นประมาณ 25.7%


· ฮังการีเลื่อนการเปิดโรงเรียน หลังจากที่นักเรียนและคณะครูอาจารย์ "ประท้วงการเปิดทำการ" จึงจะส่งผลให้การเปิดโรงเรียนชะลอออกไปอีกประมาณ 3 สัปดาห์ ถึงวันที่ 10 พ.ค.


· ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (PPI) จีน ออกมาสูงขึ้นในนรอบเกือบ 3 ปี จากภาวะเศรษฐกิจจีนโตได้อย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลรายปีโตได้ 4.4% สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ และสูงกว่าที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.พ. บริเวณ 1.7%


· ผลสำรวจรอยเตอร์ส ระบุว่า ข้อมูลเงินกู้หยวนรอบใหม่ในเดือนมี.ค.ของจีนเพิ่มขึ้น แต่ยังคงมีความกังวลเรื่องมาตรการคุมเข้ม

การกู้เงินของธนาคารครั้งใหม่ในจีน ถูกคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นในเดือนมี.ค. หลังจากที่ปรับตัวลดลงในเดือนก.พ. ท่ามกลางการสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และความเสี่ยงในการควบคุมระดับหนี้สิน

ธนาคารต่างๆของจีน ถูกประเมินว่าจะเห็นการกู้เงนหยวนรอบใหม่สุทธิในเดือนมี.ค. ที่ระดับ 2.45 ล้านล้านหยวน (3.7396 แสนล้านเหรียญ) เพิ่มขึ้นกว่า 1.36 ล้านล้านหยวนในเดือนก.พ.

แต่ภาพรวมก็อาจเห็นการปรับลง 14% จากระดับ 2.85 ล้านล้านหยวน เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว ขณะที่การใช้มาตรการเข้มงวดเพื่อจำกัดการระบาดของไวรัสโคโรนาดูจะช่วยเหลือการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

หลังจากที่การเติบโตในสินเชื่อเพิ่มขึ้นระดับสูงสุดประวัติการณ์ในเดือนม.ค. และมีการกู้รอบใหม่ที่ลดน้อยลงในเดือนก.พ. แต่ยังคงคาดการณ์เดือนมี.ค.ไว้ ว่าอาจเห็ฯยอดเงินกู้ Q1/2021 ปรับขึ้นทำสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 7.39 ล้านล้านหยวน


· ยอดขายรถยนต์ประจำเดือนมี.ค.จีนเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 12 ติดต่อกัน เนื่องจากตลาดรถยนต์ฟื้นตัวหลังการระบาดของไวรัสโคโรนา

โดยข้อมูลจาก China Association of Automobile Manufacturers (CAAM) แสดงให้เห็นว่า มียอดขายสูงถึง 2.53 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้น 74.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี


· จีนประกาศนโยบายการคลังฉบับใหม่สำหรับจังหวัดทางตอนใต้ของมณฑลไห่หนานในการเปิดบริการทางการเงินเพิ่มขึ้น และช่วยเพิ่มความสามารถในการแปลงสกุลเงินหยวน เพื่อช่วยให้นักลงทุนต่างชาติเข้าถึงตลาดได้

กลุ่มผู้กำหนดนโยบายจะใช้แนวทางการสร้างการสนับสนุนภาคธนาคารต่างๆ เพื่อให้ค่าเงินหยวนสามารถเข้าถึงสินค้าในต่างประเทศได้ รวมไปถึงพันธบัตรด้วย


· จีนจะใช้มาตรการที่ "จำเป็น" เพื่อรักษาสิทธิและผลประโยชน์แก่บริษัทต่างๆของจีน หลังสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรบริษัทจีนเพิ่ม 8 แห่งกรณี Supercomputing


· ยอดขายรถยนต์จีนเพิ่มขึ้นประมาณ 75% ในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 12 เดือน


· ผลสำรวจรอยเตอร์ส ชี้ ข้อมูลคำสั่งซื้อการผลิตของญี่ปุ่นในเดือนก.พ. มีแนวโน้มรีบาวน์ จากบริษัทต่างๆที่มีการเพิ่มค่าใช้จ่ายด้านต้นทุน แม้ว่าจะยังคงได้รับผลกระทบทางภาคธุรกิจจาก Covid-19


· "อาโสะ" รัฐมนตรีกระทรวงการคลังญี่ปุ่น ระบุว่า กลุ่มประเทศ G20 ส่งสัญญาณจะไม่ทำการแทรกแซงค่าเงินเพื่อการแข่งขัน และไม่เปลี่ยนแปลงท่าทีใดๆ แม้ว่าจะเห็นความผันผวนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราก็ตาม


· เกาหลีใต้เตรียมสั่งปิดไนต์คลับ ผับบาร์ คาราโอเกะ และสถานบันเทิงที่เปิดให้บริการในช่วงกลางคืน หลังพบยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสร้างความกังวลว่าอาจเกิดการระบาดเป็นระลอกที่ 4


· เกาหลีใต้เผยโฉมต้นแบบ "เครื่องบินขับไล่" KF-X ที่พัฒนาร่วมกับอินโดนีเซีย ท่ามกลางความไม่แน่นอนมากขึ้นเกี่ยวกับโครงการในอนาคตร่วมกันอยู่


· บริษัท Hyndai Motor ของเกาหลีใต้ ระงับการผลิตในโรงงานเมืองอาซันจากการขาดแคลนชิปที่ใช้ผลิต


· อิหร่านปล่อยตัวกัปตันเรือขนส่งเกาหลีใต้ หลังสัญญาณว่าจะช่วยเรื่องกองทุนที่ถูกระงับไว้


· ออสเตรเลียเตรียมสั่งซื้อวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาจากบริษัท Pfizer เพิ่มอีก 20 ล้านโดส


· ออสเตรเลียสั่งเพิ่มวัคซีน Pfizer สองเท่า เหตุกังวลวัคซีน AstraZeneca ส่งผลลิ่มเลือด

นายกรัฐมนรีออสเตรเลีย ระบุว่า มีการสั่งเพิ่มวัคซีน Covid-19 จากบริษัท Pfizer เพิ่มเป็นเท่าตัว ท่ามกลางประเทศที่ต้องการผลักดันแผนฉีดวัคซีนยกเครื่อง จากความวิตกกังวลในเรื่องการเผชิญลิ่มเลือดหลังจากใช้วัคซีน AsrtraZeneca

ออสเตรเลียเข้าร่วมอีกหนึ่งประเทศที่พยายามลดการใช้งานวัคซีนบริษัทดังกล่าวที่กำลังสร้างความกังวลในเวลานี้ ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านสุขภาพมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข สำหรับประชาชนเกือบ 12 ล้านคนที่มีอายุต่ำกว่า 50 ปี ในการใช้วัคซีน Pfizer แทน

และจะส่งผลให้วัคซีน Pfizer ในออสเตรเลียเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่าตัว รวมเป็นจำนวนสั่งซื้อกว่า 40 ล้านโดส ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อประชากร 4 ใน 5 ที่และคาดว่าจะได้รับวัคซีนทั้งหมดในสิ้นปีนี้


· อินเดียรายงานยอดติดเชื้อใหม่รายวันทะลุสูงสุดประวัติการณ์ครั้งใหม่แตะ 131,968 รายในวันเดียว


· อินเดียจะทำการพิจารณาข้อมูลวัคซีน Covid-19 ของบริษัท AstraZeneca ใหม่ หลังจากที่มีรางานเตือนเรื่อง "ลิ่มเลือด"


· กว่า 12 โรงพยาบาลในกรุงเทพ "ระงับ" การตรวจหาเชื้อ Covid-19 จากความต้องการตรวจหาเชื้อในระดับสูง และการขาดแคลนอุปทาน


· นายกฯ ตั้งคกก.จัดหาวัคซีนทางเลือก ขีดเส้นใน 1 เดือน-สั่งเตรียม รพ.สนาม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.ชุดเล็ก ร่วมกับคณะแพทย์จากโรงพยาบาลของรัฐและเอกชนว่า วันนี้ได้เชิญทั้งภาครัฐ เอกชนและสาธารณสุข มาหารือถึงหลักการทางการแพทย์ การอำนวยความสะดวก และการจัดหาวัคซีน ซึ่งหลักการสำคัญคือจะทำอย่างไร ให้มีวัคซีนเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นทางเลือก โดยจะต้องไปแก้ไขกระบวนการนำเข้า เพื่อให้โรงพยาบาลเอกชนที่มีความพร้อมได้จัดหาวัคซีนเอง เพื่อเป็นการช่วยภาครัฐอีกทางหนึ่ง เนื่องจากขณะนี้มีแต่วัคซีนที่รัฐบาลจัดหาในภาวะฉุกเฉิน จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาในส่วนนี้โดยมีนายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร ที่ปรึกษา ศบค. เป็นประธาน


· ราคาน้ำมันดิบปรับลงท่ามกลางแรงกดดันด้านอุปทานที่เพิ่มขึ้น - กดดันแนวโน้มอุปสงค์จากผลกระทบ Covid-19

สัญญาน้ำมันดิบ Brent ส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับลง 12 เซนต์ ที่ระดับ 63 เหรียญ/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ปิดลดลง 1 เซนต์ ที่ระดับ 59.59 เหรียญ/บาร์เรล


ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ 2 ชนิดในสัปดาห์นี้ดูจะปรับลงราว 2% - 3% หลัง OPEC+ เห็นพ้องที่จะทยอยเพิ่มกำลังการผลิตราว 2 ล้านบาร์เรล/วัน ระหว่างเดือนพ.ค. และก.ค.


บรรดานักวิเคราะห์ คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกยังเดินหน้าอ่อนตัวลง แต่อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ อาจได้รับอานิสงส์หลักมาจากการฟื้นตัวที่รวดเร็วทางเศรษฐกิจโลก


ปริมาณความต้องการน้ำมันดิบในตลาดยังคงเพิ่มสูงขึ้นได้ ก่อนที่ราคาซื้อขาย และสเปรดราคาต่อเดือนจะปรับเพิ่มขึ้นได้

อย่างไรก็ดี ความกังวลในตลาดยังมีอยู่เกี่ยวกับการเผชิญ Lockdown เพื่อจำกัดยอดติดเชื้อ Covid-19 เพิ่ม ขณะที่ปัญหาวัคซีนอาจส่งผลต่อแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันดิบ



บริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ จำกัด
40,42,44 ถนนทรัพย์สิน แขวงวังบูรพาภิรมย์เขตพระนคร กรุงเทพ 10200
โทรศัพท์ 0 2770 7777 โทรสาร 0 2623 9366 E-mail: support@mtsgoldgroup.com